
ในโลกของที่เต็มไปด้วยสมาร์ทวอทช์มีหน้าจอ WHOOP กลับเลือกทางที่ต่างออกไป ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย ไร้หน้าจอ และเน้นการเก็บข้อมูลสุขภาพร่างกายอย่างกับมีโค้ชส่วนตัวที่สามารถเปลี่ยนวิธีที่คุณฝึกซ้อม นอนหลับ และจัดการกับความเครียดในชีวิตประจำวัน จนกลายเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ของนักกีฬาระดับโลกอย่าง เลอบรอน เจมส์, ไมเคิล เฟลปส์ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นี่คือเหตุผลที่ทำให้ WHOOP สายรัดข้อมืออัจฉริยะกลายเป็นที่นิยมในกลุ่มนักกีฬาระดับโลก ผู้บริหาร และคนที่จริงจังกับสุขภาพอย่างรวดเร็วใน 2025 นี้
WHOOP คืออะไร? ทำไมถึง “ไม่ใช่แค่สายรัดนาฬิกา”
WHOOP ถูกก่อตั้งขึ้นโดย “วิลล์ อาเหม็ด” ที่มีความต้องการสร้างอุปกรณ์ที่สามารถช่วยให้นักกีฬาทราบขีดจำกัดของร่างกายตนเอง เพื่อให้สามารถเพิ่มสมรรถนะและลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บได้ WHOOP แตกต่างจากสมาร์ทวอทช์ทั่วไปด้วยแนวคิดหลักที่เรียกว่า ความเครียด, การฟื้นฟู, และการนอนหลับ ซึ่งเป็นระบบข้อมูลที่ครบวงจร โดยเครื่องจะติดตามประสิทธิภาพร่างกายที่เน้นการเก็บข้อมูลต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีปรัชญาการออกแบบที่ต้องเน้น Data ไม่เน้น Notification การไม่มีหน้าจอช่วยให้ผู้ใช้จดจ่อกับกิจกรรมตรงหน้า และประหยัดพลังงานเพื่อใช้ในเซนเซอร์วัดค่าที่ซับซ้อน
แนวคิดหลัก WHOOP ที่ทำให้แตกต่างจากสมาร์ทวอทช์ทั่วไป
1. Strain ภาวะความเครียดของร่างกาย
WHOOP จะวัดความหนักของกิจกรรมทั้งหมดที่คุณทำในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การทำงานที่ใช้ความคิดหนัก หรือแม้แต่ความเครียดทางจิตใจ โดยจะแปลงออกมาเป็นคะแนน Strain Score ที่เป็นตัวเลขเฉพาะบุคคล
2. Sleep คุณภาพการนอนหลับ
การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายฟื้นฟู WHOOP ไม่ได้แค่วัดจำนวนชั่วโมงที่คุณนอน แต่จะวิเคราะห์คุณภาพการนอนหลับในแต่ละระยะอย่างละเอียด ได้แก่ หลับตื้น, หลับลึก, และหลับฝัน เพื่อดูว่าร่างกายคุณได้พักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพจริงหรือเปล่า
3. Recovery การฟื้นฟู
นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ WHOOP เหนือกว่าคู่แข่งหลายราย Recovery Score จะบอกคุณเป็นเปอร์เซ็นต์ 0-100% เลยว่าร่างกายของคุณมีความพร้อมที่จะลุยกิจกรรมต่างๆในวันนี้ไหมหรือควรพักเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
ทำไม WHOOP ถึงเป็นที่นิยมไปทั่วโลก?
WHOOP ถูกสร้างมาเพื่อคนที่ต้องการรู้ข้อมูลร่างกายอย่างละเอียด นักกีฬามืออาชีพจึงเป็นกลุ่มแรกที่เปิดรับเทคโนโลยีนี้ เพราะข้อมูลการฟื้นตัวที่แม่นยำและสามารถช่วยหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บได้ การไม่มีหน้าจอทำให้ผู้ใช้สามารถจดจ่ออยู่กับโลกจริงได้ ต่างจากสมาร์ทวอทช์ที่คอยแจ้งเตือนและดึงดูดความสนใจตลอดเวลา WHOOP ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์วัดข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง “พูดให้เห็นภาพคือคุณแค่ใส่ไว้แล้วเจ้า WHOOP จะเป็นเหมือนโค้ชส่วนตัวของคุณในแต่ละวัน” และแน่นอนด้วยเหตุผลนี้ทำให้นักกีฬาอาชีพ กลุ่มผู้บริหาร เลือกที่จะใส่ WHOOP ไว้ติดตัวตลอดหนึ่งในนั้นคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ WHOOP
ถ้าพูดถึงการดูแลร่างกายให้อยู่ในระดับสูงสุด แม้ในวัยที่เข้าสู่ช่วงปลายของการค้าแข้ง ชื่อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือ CR7 คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุดแล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นหนึ่งในนักกีฬาระดับโลกที่เป็นสมาชิก WHOOP มานานหลายปีและยังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการของ WHOOP เขาไม่ได้ใช้เพียงเพราะเป็นกระแส แต่ใช้มันเป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ในการบริหารจัดการร่างกายของตัวเอง

ความลับของ CR7 ที่ WHOOP เปิดเผย
การเพิ่มประสิทธิภาพการนอนหลับ หรือ Sleep Optimization ตัวโรนัลโด้เองให้ความสำคัญกับการนอนหลับมาก WHOOP ช่วยให้เขารู้ได้อย่างแม่นยำว่าการนอนหลับของเขาเพียงพอหรือไม่ และอยู่ในระยะ Deep Sleep และ REM Sleep มากน้อยแค่ไหน เพื่อให้แน่ใจว่าการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและสมองเป็นไปมีประสิทธิภาพก็อย่างที่รู้ๆกันถ้าการนอนไม่ดีมันจะส่งผลกับฟอร์มการเล่นของเขาด้วย
การติดตาม HRV เพื่อการตัดสินใจฝึกซ้อม การดูค่า HRV หรือ ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจประจำวันทำให้โรนัลโด้และทีมงานสามารถปรับแผนการฝึกซ้อมได้แบบวันต่อวัน หาก Recovery Score ต่ำ เขาอาจจะลดความเข้มข้นของการซ้อมลงเพื่อป้องกันอาการล้าเกินไปหรือการบาดเจ็บ
การวิเคราะห์ Strain Score ในวันที่มีการแข่งขันหรือการฝึกซ้อมที่หนักเป็นพิเศษ WHOOP จะช่วยวัดภาวะความเครียดที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขาทั้งหมด ทำให้เขาสามารถเปรียบเทียบระหว่างช่วงการฝึกซ้อมกับการฟื้นฟูร่างกายได้อย่างสมดุล กดเพื่อดูการฝึกซ้อมร่างกายของคริสเตียโน่ โรนัลโด้
การที่นักกีฬาที่ เป๊ะ100% กับร่างกายที่สุดในโลกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังเลือกใช้ WHOOP เป็นไอเทมหลักในการติดตามสุขภาพเป็นการตอกย้ำว่า WHOOP คืออุปกรณ์ที่เน้นข้อมูลเชิงลึกและการใช้งานจริงไม่ใช่เพียงแค่อุปกรณ์ตามกระแสหรือแค่การนับก้าว ดูเวลา กดเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับ WHOOP และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ช่วงเวลาสำคัญของ WHOOP กว่าจะมาเป็นผู้กุมความลับของนักกีฬาระดับโลก
จุดเริ่มต้นของ WHOOP มาจากความสงสัยของเด็กหนุ่มนักกีฬาที่ชื่อ “วิลล์ อาเหม็ด” ที่อยากเข้าใจร่างกายตัวเองมากกว่าที่โค้ชบอก ขณะที่เจ้าตัวยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

ไทมไลน์สำคัญที่เป็นที่มาของสายรัดอัจฉริยะ
2012 : วิลล์ อาเหม็ดก่อตั้ง WHOOP ขณะที่ยังเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยตั้งเป้าหมายที่จะสร้างอุปกรณ์ที่ช่วยให้นักกีฬารู้ว่า “ควรฝึกหนักแค่ไหน” และ “ควรพักเมื่อไหร่”
2013 – 2014 : เน้นการวิจัยและพัฒนาโดยร่วมกับนักกีฬามืออาชีพเพื่อทดสอบความแม่นยำของเซ็นเซอร์ โดยเฉพาะค่า HRV หรือที่เรียกว่าค่า Heart Rate Variability
2015 : เปิดตัว WHOOP Strap 1.0 อย่างเป็นทางการ มุ่งเน้นไปที่นักกีฬาระดับ Elite และทีมกีฬาอาชีพเป็นหลัก
2018 : การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ WHOOP ยกเลิกการขายเครื่องแบบขาดตัว และเปลี่ยนมาใช้ระบบ “Subscription” (สมาชิกรายเดือน) โดยผู้สมัครสมาชิกจะได้รับอุปกรณ์ฟรีเพื่อเน้นการขาย “ข้อมูลและการวิเคราะห์” แทนตัวฮาร์ดแวร์
2022 : ขยายฐานตลาดไปทั่วโลกมากขึ้น มีการอัปเกรดซอฟต์แวร์ให้รองรับภาษาและฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น Health Monitor
2024 : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้ามาเป็นทั้งนักลงทุนและ Global Brand Ambassador อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้คนทั่วโลกรู้จักแบรนด์นี้มากขึ้นไปอีก
2025 : ตอนนี้มีรายงานว่ารายได้ต่อปีของ WHOOP ทะลุไปที่ 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้วหรือราวๆ 9000 ล้านบาทเลยทีเดียวและมีแนวโน้มจะขึ้นไปอีก รวมถึงงจำนวนสมาชิกก็โตขึ้นกว่า 20 เท่าอีกด้วย
ระบบสมาชิกของ WHOOP มีกี่แบบ?
ในปี 2025 WHOOP ได้ปรับโครงสร้างราคาใหม่ โดยแบ่งระดับสมาชิกออกเป็น 3 ระดับหลัก เพื่อให้ตอบความต้องการตั้งแต่ผู้ที่เริ่มต้นดูแลสุขภาพ ไปจนถึงผู้ที่ต้องการข้อมูลสุขภาพเชิงลึก


เริ่มจากตัวแรก ONE ราคาดีคุ้มค่า
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าถึงระบบของ WHOOP ในราคาที่เข้าถึงง่ายที่สุด เน้นการวัดผลการออกกำลังกายและการนอนเป็นหลัก
อุปกรณ์ : ได้รับเครื่อง WHOOP 5.0
ฟีเจอร์หลัก : วัดค่า Strain, Recovery และ Sleep ได้ครบรวมถึงฟีเจอร์ Strength Trainer
ข้อจำกัด : จะไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ระดับสูงอย่าง Health Monitor หรือ Stress Monitor ได้
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งาน หรือนักกีฬาที่เน้นแค่การฝึกซ้อมและพักผ่อน
Peak ขายดีและยอดนิยมที่สุด
เป็นระดับที่ “คุ้มค่าที่สุด” และได้รับความนิยมสูงสุด เพราะให้ข้อมูลที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่นักกีฬาระดับโลกใช้มาก
อุปกรณ์ : ได้รับเครื่อง WHOOP 5.0 รุ่นล่าสุด พร้อมสาย SuperKnit และตัวชาร์จไร้สาย (PowerPack)
ฟีเจอร์เด่น : ได้รับทุกอย่างจาก One และเพิ่ม 1. วิเคราะห์ “อายุร่างกาย” และอัตราการแก่ตัว 2. Stress Monitor ดูระดับความเครียดแบบเรียลไทม์ตลอดวัน 3. Health Monitor สรุปค่าสถิติร่างกายสำคัญ (อัตราการหายใจ, ออกซิเจนในเลือด) พร้อมการแจ้งเตือน
เหมาะสำหรับ : คนรักสุขภาพที่ต้องการข้อมูลสุขภาพร่างกายตัวเอง และต้องการรู้ค่าอายุร่างกายเพื่อปรับการใช้ชีวิต
กดดูข้อมูลระดับ Peak เพิ่มเติม
มาถึงระดับสูงสุดเมมเบอร์ WHOOP คือ Life
นี่คือจุดสูงสุดของเทคโนโลยีสวมใส่ในปี 2025 เลยก็ว่าได้ WHOOP รวมเอาฟีเจอร์การตรวจวัดทางการแพทย์มาไว้บนข้อมือ
อุปกรณ์ : ได้รับเครื่อง WHOOP MG ตัวท็อปสุดที่ทำจากวัสดุพรีเมียม
ฟีเจอร์พิเศษ : ได้รับทุกอย่างจาก Peak และเพิ่ม 1. Heart Screener ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเพื่อหาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ 2. Blood Pressure Insights ระบบวิเคราะห์แนวโน้มความดันโลหิตรายวัน 3. Women’s Hormonal Insights การวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพผู้หญิงเชิงลึกผ่านฮอร์โมน
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีความเครียดสูง, ผู้สูงอายุที่ต้องการเฝ้าระวังโรคหัวใจ, หรือผู้ที่ต้องการข้อมูลสุขภาพที่แม่นยำที่สุดในโลก และแน่นอนนักกีฬาระดับโลกอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ใช้ระดับ Life ในการติดตามสุขภาพร่างกายของเจ้าตัว
กดดูข้อมูลระดับ Life เพิ่มเติม
WHOOP ได้ทำให้เห็นแล้วว่าข้อมูลที่แม่นยำและเจาะลึกคือสิ่งสำคัญที่สุด การใส่ WHOOP ไม่ใช่แค่แฟชั่นตามกระแสแต่คือการให้ความสำคัญกับร่างกายตัวเองเหมือนกับที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และนักกีฬาระดับโลกหลายหมื่นคนเลือกใช้
“หากคุณกำลังมองหานาฬิกาแฟชั่นที่มีการแจ้งเตือนเยอะๆ WHOOP อาจไม่ใช่คำตอบ แต่ถ้าเป้าหมายของคุณคือต้องการโค้ชส่วนตัวที่คอยบอกว่าวันนี้ควรลุยหนักหรือควรพักผ่อน WHOOP คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในตอนนี้แล้ว”



