ลู่วิ่งไฟฟ้า vs ลู่วิ่งธรรมดา แตกต่างกันอย่างไร

ลู่วิ่งไฟฟ้ากับลู่วิ่งธรรมดามีความแตกต่างกันยังไง? เชื่อได้เลยว่าประโยคนี้เป็นคำถามที่เทรนเนอร์หรือร้านจัดจำหน่ายเครื่องออกกำลังกายได้ยินค่อนข้างบ่อย เพราะในปัจจุบัน ผู้คนเริ่มหันมาออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น เพื่อสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องการซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าไว้ที่บ้าน เนื่องจากความสะดวกสบายในการใช้งาน แต่ยังไม่เข้าใจว่าลู่วิ่งทั้งสองแบบแตกต่างกันอย่างไร โดยบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับลู่วิ่งไฟฟ้าและลู่วิ่งธรรมดาว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ที่มากกว่าการใช้ไฟฟ้าและไม่ใช้ไฟฟ้า

ทำความรู้จักกับ ลู่วิ่ง

ลู่วิ่ง (Treadmill) เป็นเครื่องออกกำลังกายที่ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) อย่างการวิ่งหรือการเดิน โดยมีโปรแกรมต่าง ๆ ที่สนับสนุนการวิ่ง เพื่อให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์มากที่สุด ทั้งการปรับความเร็ว หรือการปรับความชัน เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการออกกำลังกาย นอกจากนี้ ลู่วิ่งยังมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง อีกทั้งยังไม่ต้องเสี่ยงเผชิญสภาพแวดล้อมภายนอกอีกด้วย

โดยทั่วไปแล้ว ลู่วิ่งแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามจุดประสงค์ต่าง ๆ แต่ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายประกอบด้วย 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ ลู่วิ่งไฟฟ้า และลู่วิ่งธรรมดา หรือเรียกอีกอย่างว่า ลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า ซึ่งนอกจากความแตกต่างด้านการใช้ไฟฟ้าและไม่ใช้ไฟฟ้าของทั้งสองประเภทแล้ว ยังมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงอื่น ๆ อีกด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต่างกัน 

ความแตกต่างระหว่างลู่วิ่งไฟฟ้า vs ลู่วิ่งธรรมดา

แม้ว่าลู่วิ่งไฟฟ้าและลู่วิ่งธรรมดาจะถูกออกแบบมาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน คือการทดแทนการวิ่งจริง แต่กระนั้นลู่วิ่งทั้งสองประเภทนี้ก็มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะด้านการใช้งาน ราคา หรือแม้แต่ประโยชน์ที่จะได้รับสำหรับผู้ใช้ เรามาดูกันดีกว่าว่าความแตกต่างของลู่วิ่งทั้งสองประเภทนี้คืออะไรบ้าง!

การทำงาน

ลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นเครื่องออกกำลังกายที่มีเทคโนโลยี เครื่องยนต์และโปรแกรมต่าง ๆ ที่สนับสนุนการวิ่งโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว และความชัน เป็นต้น ผู้ใช้สามารถตั้งโปรแกรมการวิ่งได้ตามต้องการอย่างอิสระ ซึ่งต่างจากลู่วิ่งธรรมดาที่ใช้แรงขับเคลื่อนจากตัวของผู้ใช้เอง โดยไม่มีการสนับสนุนหรือการช่วยจากเครื่องยนต์

ฟังก์ชันการใช้งาน

ส่วนใหญ่แล้ว ลู่วิ่งไฟฟ้ามักจะมีฟังก์ชันเสริมที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง ตัวอย่างเช่น หน้าจอแสดงผลการออกกำลังกาย, อัตราการเต้นของหัวใจ หรือระบบทันสมัยอย่างการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนมือถือ เพื่อติดตามผลการออกกำลัง แต่ในทางกลับกัน ลู่วิ่งธรรมดาไม่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย เป็นเพียงเครื่องออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงของผู้ใช้เท่านั้น ไม่มีการสนับสนุนเฉกเช่นเดียวกับลู่วิ่งไฟฟ้า

ค่าใช้จ่ายและราคา

ด้วยการออกแบบและเทคโนโลยีทันสมัยที่มาพร้อมลู่วิ่งไฟฟ้า จึงทำให้ลู่วิ่งไฟฟ้ามีราคาสูงกว่าลู่วิ่งธรรมดาค่อนข้างมาก นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา รวมทั้งค่าซ่อมแซมลู่วิ่งไฟฟ้าก็สูงกว่ามากเช่นเดียวกัน เพราะลู่วิ่งไฟฟ้าบางรุ่นไม่สามารถซ่อมตามร้านทั่วไปได้ จำเป็นต้องส่งศูนย์เท่านั้น หากในกรณีที่ลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นของแบรนด์ชื่อดังที่มีอะไหล่เฉพาะ ซึ่งไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านทั่ว ๆ ไป

การจัดเก็บ

โดยทั่วไปแล้ว ลู่วิ่งไฟฟ้ามีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่และมีน้ำหนักเยอะ ซึ่งจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้งค่อนข้างมากและเคลื่อนย้ายลำบาก แต่กระนั้น ลู่วิ่งไฟฟ้าบางรุ่นสามารถพับได้ ทำให้ประหยัดพื้นที่ได้เกือบเท่าตัว ต่างจากลู่วิ่งธรรมดาที่มีขนาดเล็กและเบากว่า เนื่องจากไม่มีมอเตอร์หรือเทคโนโลยีทันสมัยเหมือนกับลู่วิ่งไฟฟ้า จึงทำให้ลู่วิ่งธรรมดาสามารถจัดเก็บและเคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่า

การเผาผลาญไขมัน 

จากเทรนเนอร์และผู้เชี่ยวชาญในการออกกำลังต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าลู่วิ่งธรรมมีความสามารถในการเผาผลาญไขมันมากกว่าลู่วิ่งไฟฟ้าราว ๆ 30% เลยที่เดียว เนื่องจากลู่วิ่งธรรมดาเป็นการวิ่งด้วยกำลังของผู้ใช้เองทั้งหมด โดยไม่พึ่งพาการช่วยเหลือจากมอเตอร์ ซึ่งต่างจากลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีระบบมอเตอร์และสายพานที่ช่วยทุ่นแรงในการออกกำลังกายได้อย่างมาก ทำให้ไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อ พละกำลัง และพลังงานของผู้ใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพเท่ากับลู่วิ่งธรรมดา

ความเสี่ยงต่อการเกิดอาการบาดเจ็บ

ตามที่ทราบกันคือ ลู่วิ่งไฟฟ้าถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการวิ่งโดยเฉพาะ ซึ่งมีระบบที่ช่วยรองรับน้ำหนักจากแรงกระแทกขณะวิ่ง ทำให้ลดความเสี่ยงการเกิดอาการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี โดยต่างจากลู้วิ่งธรรมดาที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและอาการบาดเจ็บมากกว่ามาก เพราะไม่ต่างจากการวิ่งจริงตรงที่ไม่มีการรองรับน้ำหนักเลย

บทสรุป

ลู่วิ่งไฟฟ้าและลู่วิ่งธรรมดามีข้อดีและข้อเสียที่มีความแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน ซึ่งการเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าหรือธรรมดาขึ้นอยู่กับความต้องการในด้านต่าง ๆ ทั้งงบประมาณ หรือฟังก์ชันการใช้งาน เป็นต้น รวมทั้งขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคลด้วย หากต้องการความสะดวกสบายและฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ลู่วิ่งไฟฟ้าจะเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการความคล้ายคลึงกับการวิ่งจริงและมีความเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ ลู่วิ่งธรรมดาจะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าหรือธรรมดาดี สามารถเข้ามาเลือกชมสินค้าเพื่อประกอบการตัดสินใจของท่านได้ที่ North Fitness ศูนย์จำหน่ายเครื่องออกกำลังกายที่ใหญ่และครบที่สุด ไม่ว่าจะเป็นลู่วิ่ง จักรยานออกกำลังกาย หรือเครื่องออกกำลังกายเกรดฟิตเนสอื่น ๆ หากสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 095-324-6465