จักรยานปั่นออกกำลังกาย เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายง่าย ๆ ไม่ต้องใช้ทักษะสูง หรือไม่มีความซับซ้อนมากนัก เหมาะกับทั้งวัยทำงานที่ต้องการเผาผลาญแคลอรี หรือผู้สูงอายุที่ต้องการออกกำลังกายแบบเบา ๆ แต่ยังคงประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและกล้ามเนื้อ! แต่หลาย ๆ คนอาจมีคำถามว่าปั่นจักรยาน ฟิตเนส ลดส่วนไหน? ปั่นจักรยานลดพุงได้ไหม? หรือจะต้องปั่นจักรยานฟิตเนสกี่นาที? เพื่อที่จะเป็นการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากที่สุด
ซึ่งในบทความนี้จะพาผู้ที่ต้องการออกกำลังกายทุกทุกช่วงวัยมาทำความรู้จักกับจักรยานออกกำลังกายที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของหัวใจ ปอด และระบบไหลเวียนโลหิต แถมยังมีแรงกระแทกต่ำและปลอดภัยกับข้อต่ออีกด้วย!
ปั่นจักรยานได้กล้ามเนื้อส่วนไหน?
ปั่นจักรยานในฟิตเนส ช่วยอะไร? จักรยานปั่นออกกำลังกายเป็นเครื่องออกกำลังกายที่มีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากการปั่นจักรยานอยู่กับที่ 30 นาที ไม่ใช่แค่การออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานหรือช่วยลดน้ำหนักเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลายส่วนพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น ขาด้านหน้า, ต้นขาด้านหลัง, น่อง รวมถึงกล้ามเนื้อสะโพกและก้น
ไม่เพียงเท่านั้น ส่วนบนร่างกายก็ได้ประโยชน์เช่นกัน เพราะการประคองแฮนด์จักรยานทำให้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว หน้าท้อง และหลังส่วนล่างทำงานร่วมกันเพื่อรักษาสมดุลนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นการปั่นจักรยานสร้างกล้ามเนื้อที่ได้ประโยชน์หลากหลายด้านอย่างมากเลยทีเดียว
ปั่นจักรยานฟิตเนสลดพุงอย่างถูกวิธี เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
การปั่นจักรยานออกกำลังกายสามารถช่วยลดพุงได้จริง! หากใช้งานอย่างถูกวิธีและต่อเนื่อง หลักสำคัญของการออกกำลังกายด้วยอุปกรณ์ดังกล่าว คือจะต้องรักษาความสม่ำเสมอ โดยเริ่มจากการปั่นจักรยานด้วยระดับแรงต้านปานกลาง เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ต่อเนื่องและไม่เหนื่อยมากจนเกินไป จากนั้นค่อย ๆ ปรับเพิ่มความหนักสลับเบาแบบอินเทอร์วัล เพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ โดยปติแล้วควรใช้งานจักรยานปั่นออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อครั้ง สัปดาห์ละ 3-5 วัน พร้อมควบคุมอาหารและลดการบริโภคน้ำตาลหรือไขมันเกินจำเป็น
วิธีการเลือกซื้อจักรยานปั่นออกกำลังกาย
สำหรับใครที่ต้องการซื้อจักรยานปั่นออกกำลังกายสำหรับติดตั้งที่บ้าน หรือการทำ Home Gym ควรจะพิจารณาหลาย ๆ ปัจจัยเพื่อเลือกซื้ออย่างคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด โดยจะมี 4 ปัจจัยหลัก ๆ ในการพิจารณา ดังนี้
เป้าหมายการออกกำลังกาย
การพิจารณาเป้าหมายในการออกกำลังกาย เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะหากต้องการลดน้ำหนักแบบจริงจัง ควรเลือก Spinning Bike ที่เหมาะกับการออกกำลังกายหนักและเผาผลาญแคลอรีได้อย่างดีเยี่ยม แต่หากต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและดูแลสุขภาพทั่วไป ควรเลือก Upright Bike และ Recumbent Bike ที่เหมาะกับการออกกำลังกายในระดับเบาถึงปานกลาง และใช้งานง่าย สะดวกสบายอย่างมาก
งบประมาณ
งบประมาณก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะต้องนำมาใช้พิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ ของการเลือกซื้อจักรยานปั่นออกกำลังกาย โดยควรจะพิจารณาเลือกซื้อให้อยู่ในงบประมาณที่จำกัด เนื่องจากในร้านขายเครื่องออกกำลังกายมักจะมีเกรดหรือระดับของเครื่องเล่นออกกำลังกายต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย
พื้นที่ภายในบ้าน
เมื่อพิจารณาจากงบประมาณแล้ว ควรจะวัดขนาดของพื้นที่ภายในบ้านที่คาดว่าจะนำจักรยานปั่นออกกำลังกายไปติดตั้งไว้ หากมีพื้นที่จำกัดควรจะเลือกจักรยานรุ่นที่มีขนาดเล็กหรือสามารถพับเก็บได้ ส่วนสำหรับพื้นที่กว้างขวาง สามารถเลือกจักรยานขนาดใหญ่ หรือรุ่นที่มีฟังก์ชันพิเศษได้
ฟังก์ชันสำหรับใช้งาน
ปัจจัยสุดท้ายที่พลาดไม่ได้เลยก็คือฟังก์ชันสำหรับใช้งาน ควรจะตรวจสอบคุณสมบัติของจักรยานปั่นออกกำลังกาย เพื่อความสะดวกในการใช้งานมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น เบาะนั่งปรับระดับเพื่อรองรับสรีระอย่างเหมาะสม, แฮนด์จับปรับระดับ, หน้าจอแสดงผล และระบบต้านทานที่สามารถปรับได้หลายระดับ เป็นต้น
บทสรุป
จักรยานปั่นออกกำลังกายถือเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพสำหรับทุกเพศ ทุกช่วงวัย เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ปลอดภัยกับข้อต่อ แถมยังได้ประโยชน์หลากหลายด้านและให้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมทั้งการเผาผลาญและการเสริมความแข็งแรงของร่างกาย โดยเฉพาะการเลือกซื้อจักรยานออกกำลังกายไว้ที่บ้าน หรือการทำ Home Gym จะช่วยให้คุณสามารถออกกำลังกายได้ทุกเวลา ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางหรือเวลาว่างที่ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงวัยทำงาน